วางแผนงานแต่ง แบบไม่ว้าวุ่น
งานแต่งงานไม่เคยเป็นเรื่องของคนแค่สองคน เพราะงานแต่งงานมีองค์ประกอบต่างๆ มากมาย การเตรียมงานจึงมีสารพัดเรื่องที่ต้องจัดการ – Wedding Planning Checklists จะเป็นตัวช่วยให้คุณได้ทราบขั้นตอนการเตรียมงานแบบกว้างๆ เพื่อให้ไม่ตกหล่นเรื่องสำคัญ จนต้องฉุกละหุกหัวหมุนในตอนใกล้ถึงวันงาน แต่เหนือสิ่งอื่นใด งานแต่งงานแต่ละงานก็ไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามแบบแผนเดียวกัน Wedding Planning Checklists นี้ จึงเป็นเพียงไทม์ไลน์และเช็กลิสต์ที่ได้รับการแนะนำจากประสบการณ์ของบ่าวสาวและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานแต่งงาน เพื่อให้คุณได้มองเห็นภาพกว้างๆ และได้ทราบลำดับการแพลนงานแบบทั่วๆ ไป ซึ่งคุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการให้ลำดับความสำคัญ
การใช้งาน Wedding Planning Checklists ให้ได้ประโยชน์ที่สุด คือการปรับไทม์ไลน์ตามระยะเวลาการเตรียมงานจริงของคุณ แน่นอนว่าหลายคนอาจมีเวลาเตรียมงานแต่งงานเพียง 6 เดือน 3 เดือน หรืออาจจะแค่ 1 เดือน! ในขณะที่บางคนก็อาจมีเวลาเป็นปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสเกลงานและความคาดหวังของคุณเองด้วย
[Tip]
ไทมไลน์ที่แนะนำใน Wedding Planning Checklists นี้ คือ 12 เดือน โดยแบ่งสิ่งที่แนะนำให้ทำออกเป็น 5 ระยะ คือ 10-12 เดือน, 7-9 เดือน, 4-6 เดือน, 1-3 เดือน และภายในเดือนสุดท้ายก่อนวันแต่งงาน – หากคุณมีเวลาเตรียมงานน้อยกว่านั้น ก็อาจปรับเอาตามความเหมาะสม หรือย่นระยะเวลาลงโดยแบ่งเวลาเตรียมงานของคุณออกเป็น 5 ระยะได้เช่นกัน
10-12 เดือนก่อนวันงาน
ช่วงนี้ยังมีเวลาเตรียมงานอีกมาก หลายคนจึงอาจยังมองภาพไม่ออกว่าควรจะเตรียมงานอย่างไรก่อนดี แนะนำให้ใช้ช่วงเวลานี้ในการหาข้อมูลและเริ่มวางแผนสิ่งที่พอจะกำหนดได้ ที่สำคัญอยากให้บ่าวสาวคุยกันให้ชัดเจนในช่วงนี้ ว่าความคาดหวังต่องานแต่งงานของทั้งสองคนเป็นอย่างไร (หรืออาจต้องคุยกับครอบครัวด้วย) จะได้จัดลำดับความสำคัญ และเริ่มเตรียมงานกันได้ถูกทิศทาง โดยองค์ประกอบหลักๆ ที่แนะนำให้เตรียมในช่วงนี้ เช่น
- กำหนดงบประมาณ – งบประมาณเป็นปัจจัยหลักของการจัดงาน การกำหนดงบประมาณคร่าวๆ ได้เร็ว จะทำให้มองเห็นภาพงานชัดเจนขึ้น และสามารถเตรียมงานในขั้นตอนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้นมาก
- คำนวณจำนวนแขก – จำนวนแขกสำคัญมากกับรูปแบบของงาน และส่งผลต่อการเลือกสถานที่จัดงาน ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญ
- กำหนดวันจัดงาน – หากกำหนดวันจัดงานได้เร็ว จะทำให้การเลือกสถานที่ง่ายขึ้นด้วย เพราะเมื่อเจอสถานที่ที่ชอบ บ่าวสาวจะสามารถตัดสินใจจองสถานที่ได้ โดยไม่ต้องรีรอเรื่องวันจัดงาน
- ตัดสินใจว่าจะจ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์หรือไม่ – ควรรีบตัดสินใจตั้งแต่ช่วงนี้ เพราะการจัดงานที่มีแพลนเนอร์ช่วยดูแล กับการต้องเตรียมงานทั้งหมดเองนั้นต่างกันมาก
- หาข้อมูลเรื่องสถานที่จัดงานและเริ่มตระเวนดูสถานที่ – อย่างที่กล่าวมา สถานที่จัดงานถือเป็นองค์ประกอบสำคัญมากในการจัดงานแต่งงาน ก่อนจะสรุปเรื่องอื่นๆ แนะนำให้เริ่มจากการหาสถานที่จัดงานให้ได้เสียก่อน
- มองหาธีมงานที่ชอบคู่สีที่อยากใช้ในงานแต่งงาน – ธีมงานจะทำให้เราแพลนงานในขั้นต่อไปให้ง่ายขึ้น เช่น เรื่องชุดแต่งงาน ชุดเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว และสไตล์การตกแต่ง
- หาข้อมูลทีมงานหลักๆที่เกี่ยวข้อง – ทีมงานที่จะมาซัพพอร์ตส่วนหลักๆ ที่คุณให้ความสำคัญ เช่น ช่างภาพ ช่างวิดีโอ ช่างแต่งหน้า ยิ่งจัดงานในวันฤกษ์ดี ยิ่งแนะนำให้รีบจองทีมงานที่ถูกใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
7-9 เดือนก่อนวันงาน
เป็นช่วงที่เตรียมงานต่อเนื่องมาจากระยะก่อนหน้า เมื่อมาถึงช่วงนี้บ่าวสาวควรจองสถานที่แต่งงาน และทีมงานหลักๆ ไว้บ้างแล้ว หากยังไม่ได้ทำการจอง แนะนำให้รีบจัดการในระยะนี้ ไม่ควรปล่อยเวลาให้นานออกไป เพราะยิ่งใกล้วันงานจะยิ่งมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการเพิ่มเข้ามา
สำหรับช่วงเวลานี้แนะนำให้เริ่มมาโฟกัสที่เรื่องของบ่าวสาว เช่น ชุดแต่งงาน การถ่ายพรีเวดดิ้ง รวมถึงหาข้อมูลและเริ่มจองทีมงานซัพพอร์ตอื่นๆ
-
- เลือกแหวนแต่งงาน – สิ่งสำคัญที่แนะนำให้ให้เลือกไว้ตั้งแต่แรก จะได้มีเวลาเลือกร้านและรูปแบบเพชรที่ชื่นชอบ บางรูปแบบต้องใช้เวลาในการทำหลายเดือน
- เลือกชุดแต่งงาน รองเท้า และเครื่องประดับ – บางคู่ที่ให้ความสำคัญกับชุดแต่งงานมาก อาจวางแผนเรื่องชุดแต่งงานตั้งแต่ระยะแรกเลยก็ได้ แต่ที่แนะนำให้เลือกในระยะนี้ เพราะเมื่อมองเห็นภาพงานแต่งงานที่เริ่มชัดขึ้น อาจทำให้สามารถเลือกชุดแต่งงานได้เหมาะสมและง่ายขึ้นด้วย อีกทั้งหากได้ลองใส่ชุดแต่งงานหลายๆ แบบถ่ายพรีเวดดิ้งมาแล้ว อาจทำให้เลือกชุดแต่งงานได้ตรงใจมากขึ้นด้วย
- ถ่ายพรีเวดดิ้ง – การถ่ายพรีเวดดิ้งหลังจากรู้ว่าจะจัดงานแต่งงานที่ไหน และธีมงานแต่งงานคร่าวๆ เป็นอย่างไร จะทำให้สามารถเลือกถ่ายภาพในสไตล์ที่เข้ากันได้ดีกับงานแต่งงาน แนะนำให้เช็คคิวกับช่างภาพหรือ Studio ไว้ล่วงหน้า บางแห่งอาจต้องใช้เวลาจองคิวนานเป็นปี
- หาข้อมูลทีมงานอื่นๆ – งานแต่งงานมีองค์ประกอบหลากหลาย และมีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมากมาย อย่าลืมทีมงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น ทีมตกแต่ง พิธีกร วงดนตรี ฯลฯ
4-6 เดือนก่อนวันงาน
มาถึงครึ่งทางของการเตรียมงานแล้ว อยากให้ลองทบทวนการเตรียมงานที่ผ่านมา หากมีเรื่องสำคัญๆ ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป หรืออาจหลงลืมไป ให้รีบจัดการในช่วงนี้ ยิ่งใกล้วันแต่งงาน คุณจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไป ไวเกินไป!
- สรุปรายละเอียดขององค์ประกอบอื่นๆ–เช่น เลือกเมนูอาหารให้เรียบร้อย สรุปเรื่องซุ้มอาหารที่จะนำเข้ามาเสริม เลือกเค้กแต่งงาน หรือถ้าจะสั่งทำพิเศษก็ลงมือจัดการได้เลย
- พิมพ์การ์ดแต่งงาน – หากคุณยังให้ความสำคัญกับการ์ดเชิญแบบที่ต้องมอบให้ด้วยตัวเอง ควรรีบสรุปเรื่องการ์ดและสั่งพิมพ์ล่วงหน้าเพื่อความอุ่นใจ
- ของชำร่วย ของรับไหว้ ยกน้ำชา– หลายคู่ให้ความสำคัญกับของขวัญ ถึงเวลานี้คุณควรจะเลือกของชำร่วยและเริ่มสั่งทำได้แล้ว ในช่วงที่ฤกษ์ดีดี ร้านที่รับผลิตต้องใช้เวลานานกว่าปกติ
- ชุดเพื่อนเจ้าบ่าว–เจ้าสาว– หากคุณจริงจังกับชุดของเพื่อนๆ ขนาดที่จะต้องสั่งตัดหรือหาซื้อใหม่ ก็น่าจะต้องคุยกับเพื่อนๆ และเริ่มจัดการในช่วงเวลานี้แล้ว
- เริ่มดูแลความสวย– ใครได้เป็นเจ้าสาวก็คงต้องดูแลความสวยเป็นพิเศษตั้งแต่วันแรกที่คิดว่าจะแต่งงานแล้ว แต่ช่วงเวลานี้คุณอาจต้องเริ่มดูแลแบบอินเทนซีฟขึ้นอีก เพื่อให้สวยทันวันแต่งงานแบบไม่ต้องเคร่งเครียดจนเกินไป
- วางแผนฮันนีมูน– หากมีแพลนฮันนีมูนต่างประเทศ ตอนนี้ก็น่าจะต้องวางแผนและเริ่มจองตั๋วและที่พักไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นช่วงเทศกาลหรือช่วงวันหยุดสำคัญๆ
2-3 เดือนก่อนวันงาน
วันแต่งงานใกล้เข้ามาแล้ว ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาเก็บตกรายละเอียด หากตกหล่นเรื่องสำคัญไป ยังพอมีเวลาจะแก้ไขได้ทัน
- ลองชุดแต่งงาน – เผื่อต้องปรับแก้ไซส์ จะได้ยังพอมีเวลาแก้ไขอย่างประณีต
- แจกการ์ดได้แล้ว – ช่วงนี้ไม่น่าจะเร็วและไม่ช้าเกินไปที่จะแจกการ์ดเชิญ
- เตรียมของขวัญ – หาซื้อของขวัญให้ครอบครัว รวมถึงเพื่อนๆ ที่จะมาช่วยงาน
- เข็มกลัดดอกไม้ และสายผูกมือเพื่อนเจ้าสาว– ดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นกิมมิกให้กับงาน เข็มกลัดดอกไม้สำหรับพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ รวมถึงสายผูกข้อมือสำหรับเพื่อนเจ้าสาว แนะนำสั่งทางร้านไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
- ซื้อของจิปาถะที่จำเป็น– ลองคิดดีๆ ว่าคุณยังต้องการของอะไรอีกบ้าง แล้วรีบจัดการก่อนจะถึงโค้งสุดท้าย
1 เดือนสุดท้ายก่อนวันงาน
ช่วงเวลาแห่งการ “คอนเฟิร์ม”! ทีมงานและแผนงานต่างๆ ที่เตรียมตัวกันมาล่วงหน้าหลายเดือน ถึงเวลาเมคชัวร์ว่าทุกอย่างยังเป็นไปตามแผน
- ลองชุดแต่งงานครั้งสุดท้าย– ลองชุดแต่งงานอีกครั้ง ให้มั่นใจว่าที่ปรับแก้มาโอเคและใส่ได้พอดี
- คอนเฟิร์มแขกคนสำคัญ– จะได้ทราบจำนวนแขกผู้หลักผู้ใหญ่ที่สามารถมาร่วมงานได้จริงๆ เพื่อจัดคนดูแลและจัดที่นั่งให้เหมาะสม
- คอนเฟิร์มทีมงานต่างๆ–คอนเฟิร์มเวลานัด แจ้งสถานที่นัดพบให้ชัดเจน
- ประชุมสรุป –จะดีมากหากคุณได้ประชุมไฟนอลกับเวดดิ้งแพลนเนอร์ หรือทีมงานของโรงแรมที่ดูแลการจัดงานแต่งงานให้คุณ
- เตรียมธนบัตรสำหรับว่างสินสอด – หากต้องการธนบัตรใบใหม่ ๆ ควรแจ้งธนาคารล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ธนาคารจะได้เตรียมธนบัตรให้ได้ทันเวลา
วันก่อนวันแต่งงาน
- เตรียมจัดของจำเป็นที่ต้องใช้ในวันงาน –จะดีมากถ้าแพ็กลงกระเป๋าให้เรียบร้อย หากนำไปเก็บไว้ในรถไว้ให้พร้อมเลยจะยิ่งดี
- เตรียมเงินสด–เตรียมเงินสดสำรองไว้สำหรับซองผ่านประตูเงินประตูทอง ซองยกน้ำชา แนะนำใส่ซองไว้ให้เรียบร้อย
- ปล่อยวางและพักผ่อน –มาถึงตอนนี้ คุณน่าจะทำดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว แค่ปล่อยวางแล้วทำใจให้สบาย ดื่มน้ำ กินอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อตื่นขึ้นมาอย่างสดใสในวันสำคัญที่รอคอย
ถ้าต้องการปรึกษาเพิ่มเติม ทางทีมงาน NP Photography ยินดีให้คำแนะนำ ติดต่อเราง่าย ๆ ตาม Contact ที่อยู่ด้านล่างนี้ หรือคลิกที่ปุ่ม Add friend ได้เลย